ทันทีที่เอฟเอ หรือ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ แจ้งข้อหาฉกรรจ์ประพฤติตัวไม่เหมาะสมแก่หลุยส์ ซัวเรซ นำมาซึ่งโทษแบนห้ามลงเล่นเกมในเกาะอังกฤษนานถึง 10 เกม จากโทษแบนครั้งนี้มันเปรียบได้กับมีฟ้าผ่าลงกลางสนามแอนฟิลด์ ก็ไม่ปาน ทีมของแบรนดอน รอดเจอร์สจะต้องลงเล่นโดยขาด หลุยส์ ซัวเรซ ผู้ซึ่งยิงประตูให้กับหงส์แดงถึง 30 ประตู ในซีซั่นนี้ ความกลัวเริ่มแผ่ปกคลุมไปทั่วแอนฟิลด์ เมื่อลิเวอร์พูลขาดซัวเรซไป เกมบุกที่เคยมีซัวเรซเป็นแกนหลักจะทำอย่างไร คนที่มาแทนซัวเรซอย่างดาเนียล สเตอริดจ์จะรับแบกทีมได้แบบที่ซัวเรซทำได้ไหม และยิ่งโปรแกรมแรกที่ไม่มีซัวเรซจะต้องออกไปเยือนทีมที่เก่งในบ้านอย่างนิวคาสเซิ่ลด้วยแล้ว แฟนๆหลายๆคนต่างพากันหวาดวิตกกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น หลายๆคนทำใจล่วงหน้าไว้แล้วด้วยซ้ำ ว่าอาจจะต้องแพ้พ่ายกลับมาได้
แต่เรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้น เกมแรกของลิเวอร์พูลหลังจากซัวเรซโดนแบน พลพรรค “หงส์แดง” กลับออกไปยิงสลุดนิวคาสเซิ่ล พังคาเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ยับเยิน 0-6 … ความกลัวที่ว่าทีมจะไม่มีคนยิงประตูคลายหายไปเมื่อดาเนียล สเตอริดจ์กลายเป็นพระเอกแทนที่ซัวเรซไปแล้ว ณ เวลานี้ … 6 ลูก ทั้งๆที่ไม่มีซัวเรซ !! ดูเหมือนทีมจะไม่ต้องการซัวเรซซะแล้วในเวลานี้ ?
ในเมื่อเกิดคำถามทำนองนี้ขึ้นมา เราลองมาดูค่าสถิติต่างๆในเกมที่มีและไม่มีซัวเรซกันครับว่า ตกลงแล้วทีมเมื่อมีซัวเรซกับไม่มีซัวเรซลงสนาม ทีมมีผลงานอย่างไรกันบ้าง?
- ซัวเรซลงสนามในฤดูกาล 2012/13 จำนวนทั้งสิ้น 44 เกม ยิงไปทั้งสิ้น 30 ประตู (23 ประตูในลีก) คิดเป็น 1.467 เกม ต่อ 1 ประตู ถ้ารวมทั้งหมดตั้งแต่ซัวเรซย้ายมาร่วมทีม ซัวเรซลงสนามไปทั้งสิ้น 96 เกม ยิง 51 ประตู คิดเป็น 1.88 เกมต่อ 1 ประตู
- ตั้งแต่ซัวเรซย้ายซบลิเวอร์พูล ทีมหงส์แดงลงเล่นไปแล้ว 120 เกม ชนะ 56 เสมอ 30 แพ้ 34 เกม คิดเป็น 1.65 คะแนนต่อเกม (คิดรวมทุกเกมชนะได้ 3 เสมอได้ 1 แพ้ได้ 0 คะแนน) แต่ถ้าเกมไหนซัวเรซยิงประตูได้แล้วหล่ะก็ ลิเวอร์พูลจะสามารถเก็บแต้มเฉลี่ยเพิ่มได้ถึง 2.125 คะแนนต่อเกมในทันที จากการชนะ 25 เสมอ 10 และแพ้ 5 เกม
- ซัวเรซลงสนามแต่ยิงประตูไม่ได้ทั้งสิ้น 56 เกมด้วยกัน ชนะ 16 เสมอ 16 และแพ้ 24 เกม เก็บได้เพียง 1.143 คะแนนเท่านั้น เมื่อซัวเรซไม่ยิง
- จาก 51 ประตู ที่ซัวเรซยิงได้นั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นประตูที่นำชัยชนะให้กับทีมเพียงแค่ 7 ประตู เท่านั้น คือในเกมที่พบกับ วูฟส์แฮมป์ตัน, สโต๊ก (เอฟเอ คัพ), คิวพีอาร์ ( 2 ครั้ง), นอริช, วีแกน และเมนฟิลด์ ทาวน์ (เอฟเอ คัพ) อีก 25 ประตูยิงเพื่อในขณะทีทีมขึ้นนำไปแล้ว 12 ประตูยิงเพื่อให้ทีมขึ้นนำ 11 ประตูเพื่อตามตีเสมอ และมีเพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้นที่เป็นประตูตีไข่แตก
- ในทางตรงกันข้าม ตั้งแต่ซัวเรซย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูลลงเล่นโดยไม่มีซัวเรซทั้งสิ้น 24 เกม (24 จาก 120 เกม) คิดเป็นแค่ 20% ของเกมทั้งหมดตั้งแต่ซัวเรซย้ายมา โดยแบ่งเป็นชนะ 15 เสมอ 4 และแพ้ 5 เกม คิดเป็น 2.04 คะแนนต่อเกม (แต่ใน 24 เกมที่ลงเล่นโดยไม่มีซัวเรซนั้น เป็นเกมฟุตบอลถ้วยอย่างลีก คัพและยูโรป้า ลีก ถึง 12 เกม ด้วยกัน)
จากข้อมูลทางสถิติทั้งหมดที่ยกมา ถ้าเราจะบอกว่าซัวเรซไม่จำเป็นต่อทีมเราแล้ว คงพูดไม่ได้เต็มปากนัก เพราะว่า แม้ค่าคะแนนเฉลี่ยต่อเกมเมื่อไม่มีซัวเรซลงสนามจะมากถึง 2.04 คะแนนต่อเกมก็ตาม แต่ดันเป็นเกมบอลถ้วยไม่มีความหมายถึง 12 เกม หมายความว่าหากซัวเรซไม่เจ็บหนักหรือโดนแบน ชื่อแรกๆที่ผจก.ทีมจะส่งลงสนามต้องมีชื่อซัวเรซอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะเมื่อเกมไหนซัวเรซแผลงฤทธิ์ยิงประตูได้ คะแนนเฉลี่ยต่อเกมจะพุ่งขึ้นไปแต่ถึงระดับ 2.125 คะแนนต่อเกมในทัน ซึ่งมากกว่าคะแนนเฉลี่ยต่อเกมเมื่อไม่มีซัวเรซลงสนามด้วยซ้ำ
ค่าสถิติเหล่านี้ รวบรวมมาเฉพาะการยิงประตูเท่านั้น ไม่รวมนัดที่ซัวเรซจ่ายบอลให้เพื่อน หรือมีส่วนร่วมในการยิงประตูแต่อย่างใด ผมเชื่อว่าถ้ารวมสถิติต่างๆเหล่านั้นมาด้วย เราจะเห็นความสำคัญของซัวเรซผ่านค่าตัวเลขต่างๆทางสถิติเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลุยส์ ซัวเรซ ยังคงเป็นสมบัติอันล้ำค่าของทีม และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเรา The Kop ก็ยังจะยืนข้างซัวเรซเสมอ หากพวกคุณเคยฉีกยิ้มในวันที่ซัวเรซยิงได้ ในวันที่ซัวเรซมีปัญหา พวกคุณก็ควรจะอยู่ข้างเค้าด้วยเช่นกัน
You’ll never walk alone, Luis !!
Kopper
โคตรๆอ่ะคับ
จริง
ไม่แน่มั้ง
จิง
ไม่จิงหรอกแต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ขาดตัวเก่งๆไป หรอก
ไม่จิงคับ บอรินี่ก็มี สเตอร์ริดจ์ก็มี สเตอร์ริ่งก็เล่นได้ แต่ทางที่ดีผมว่าเอาตอเรสคือทีมดีกว่าเจ๋งกว่าเยอะ รึไม่ก็เบลามี่ใครสักคนแต่ทั้ง2คนก็จะดีมาก
จริง!!
ไม่จิงหรอก ดูนิวดิโดนไปเท่าไร
อยากได้ตอเรสกับมาอ่ะ
ไม่จิง