ก่อนเกม และ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูลได้จอร์แดน เฮนเดอร์สันกัปตันทีมตัวจริงกลับมาลงสนามในแดนกลาง ขณะที่คูตินโญ่ก็กลับมาเป็นตัวจริงได้อีกครั้ง นับว่าสมบูรณ์ไม่น้อยในเวลานี้ แม้จะขาดตัวที่เจ็บอยู่ก่อนอย่างมามาดู ซาโก้ ที่เจ็บอยู่ก่อน รวมถึงแดเนียล สเตอร์ริดจ์
เกมนี้ไม่น่าแปลกใจที่หน้าเป้าจะเป็นคริสเตียน เบนเตเก้ตามความคาดหมาย เพราะเกมนี้เจอกับทีมของโทนี พูลิสที่คาดว่าจะเน้นลูกกลางอากาศเป็นหลัก กองหน้าเบลเยียมนอกจากช่วยแย่งบอล และลุ้นทำประตูแล้ว ยังสามารถช่วยเกมรับได้อีกด้วย
รูปเกม
ต้นเกมลิเวอร์พูลสร้างจังหวะได้ดีพอสมควร และมีโอกาสเข้าทำไม่น้อย ส่วนทีมเยือนตามสไตล์ของโทนี พูลิส เน้นการโยนเข้าไปในเขตโทษ และขึ้นไปทำเกมรุกในลูกตั้งเตะ ลิเวอร์พูลได้ประตูจากการทำเกมสวยงาม ขณะที่ความผิดพลาดในการออกไปตัดบอลของไซม่อน มินโญเลต์ทำให้ทีมถูกตีเสมออย่างน่าผิดหวังพอสมควรทั้งที่รูปเกมดีกว่า ท้ายครึ่งแรกทีมเยือนเกือบขึ้นนำจากฟรีคิก แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าทำให้ต้องไปเริ่มกันใหม่ครึ่งหลัง
ครึ่งหลังเกมแทบไม่ต่างจากครึ่งแรก และทีมเยือนยังเล่นเกมหนัก แต่สุดท้ายทีเด็ดของพวกเขามาจากลูกตั้งเตะก็ทำให้ทีมเยือนขึ้นนำ กระนั้นลิเวอร์พูลยังไม่ถอดใจยอมแพ้
คะแนนความสามารถรายตัวนักเตะลิเวอร์พูล
มินโญเลต์ 3 : รับผิดชอบไปเต็มๆ กับประตูแรกที่ทีมเสีย แทนที่จะทำให้สถานการณ์ของทีมง่าย กลับทำให้ทุกอย่างพังไปทันที หมดสิทธิ์กับลูกที่สอง แต่ทั้งเกมแฟนบอลต้องใจหายทุกครั้งเมื่อบอลไปถึงหน้าปากประตูตัวเอง
ไคลน์ 7: แสดงความมุ่งมั่นในการเติมเกมรุกกว่าหลายๆ เกมที่ผ่านมา ไม่ยอมแพ้แม้แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บยังคงวิ่งไม่หยุด
สเคอร์เทล 4.5 : ต่ำกว่ามาตรฐานมาก โดยเฉพาะการแย่งโหม่งกับผู้เล่นทีมเยือน และลูกที่ 2 ที่มีส่วนรับผิดชอบเต็มๆ ไม่นับลูกปลายครึ่งแรกที่เกือบจะไม่กลายเป็นลูกล้ำหน้า
ลอฟเรน 5: ทุ่มเท แต่ไม่เด่นในการช่วยป้องกันลูกกลางอากาศ ขึ้นไปโหม่งเกือบช่วยให้ทีมได้ประตู
โมเรโน่ 6 :ไม่เด่นเท่าไคลน์ในฝั่งขวา แต่ไม่ถึงกับเป็นจุดบอด มีวินัยในเกมมากขึ้น และสมาธิในเกมรับมากกว่าช่วงก่อนหน้านี้
ชาน 6 : ได้โอกาสในเกมนี้น่าจะเหตุผลด้านสรีระเทียบกับลูคัส เล่นได้อย่างมีพลังในช่วงต้น และเปิดบอลสวยๆ แต่ทั้งเกมโดยรวมขาดความสม่ำเสมอ และมีส่วนกับทีมน้อยลงตามเวลาที่อยู่ในสนาม
เฮนเดอร์สัน© 7.5 : ไม่เหมือนคนที่พักไปนาน กลับมาเล่นอย่างมีพลัง และพยายาม มีความเด็ดขาดในการทำประตูแรก และสร้างโอกาส รวมถึงลุ้นทำประตูที่สองให้ตัวเองในเกมนี้
มิลเนอร์ 5: ใจร้อนเกินไปในหลายจังหวะ นับลูกพลาดในพื้นที่สำคัญ ทั้งการตัดสินใจจ่าย หรือยิงที่พลาด ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกไป
ลัลลานา 6 : ทำได้ดีในจังหวะโหม่งตั้งให้เฮนเดอร์สันทำประตูแรก แต่หลังจากนั้นก็หายไปจากเกม จังหวะทีเด็ดทีขาดแย่มาก โดยเฉพาะลูกหลุดเดี่ยวท้ายเกมยิงแบบไม่มีลุ้น ถ้าไม่มีแอสซิสต์จะได้คะแนนต่ำกว่านี้
คูตินโญ่ 5.5 : สร้างสรรค์เกมในจังหวะประตูแรก โดยรวมทำให้ทีมได้ลุ้นจากลีลาการเล่น และทักษะ แต่ประสิทธิภาพในเกมนี้ด้อยเกินกว่าจะให้คะแนนสูงๆ และแม้จะสร้างโอกาสยิง แต่ความแม่นยำยังไม่มา คงต้องการเวลาเรียกความสมบูรณ์อีกนิด
เบนเตเก้ 5 : ได้ลุ้นพอสมควร แต่ไม่เด็ดขาดพอในเกมนี้ มีลูกขยันลงไปช่วยโหม่งในเกมรับหลายครั้ง รวมถึงจังหวะเสียประตูแรกที่ช่วยกันให้มินโญเลต์ แต่ผู้รักษาประตูเบลเยียมกลับพลาด โดยรวมในหน้าที่ของศูนย์หน้าทำไม่ดีพอในเกมนี้
สำรอง:
ไอบ์ 6 : มีเวลามากว่าตัวสำรองรายอื่นๆ เลี้ยงบอลสร้างความปั่นป่วนให้ทีมเยือนพอสมควร เกมนี้ไม่มีจังหวะเสียบอลง่ายๆ แต่ก็ยังไม่มีจุดเด่นมากนัก
โอริกี 7 : เวลาน้อยมากปกติจะไม่ให้คะแนน แต่ต้องให้เครดิตกับประตูที่แฉลบเป็นลูกตีเสมอในเกมนี้
เฟอร์มิโน่ – : เวลาน้อยมาก
ผู้จัดการทีม
คล็อปป์ 7.5 : ในรายละเอียดด้านการวางแผนที่เป็นส่วนที่ผู้จัดการทีมรับผิดชอบต้องบอกว่าทำได้ดีมาก ทั้งรูปเกมสถิติทุกอย่างที่ออกมาในบทสรุปสุดท้าย แต่รายละเอียดที่แม้แต่ตัวเขายังบ่นหลังเกมคือการเสียประตูจากลูกตั้งเตะ ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องบอกว่าเป็นปัญหาเรื้อรังของลิเวอร์พูลมายาวนาน และต้องใช้เวลานานกว่านี้ในการแก้ไข ส่วนตัวเสียดายที่ไอบ์ไม่ได้สตาร์ทตัวจริงเกมนี้ เพราะนอกจากเป็นเกมที่ปะทะด้วยร่างกาย ปีกรายนี้น่าจะดึงกองหลังทีมเยือนหลุดตำแหน่งได้บ้าง แต่เป็นอีกเกมที่คล็อปป์ต้องเริ่มเรียนรู้ฟุตบอลอังกฤษ แต่กับการปลุกลูกทีมให้ไม่ยอมแพ้ และสัญญานที่ดีกว่าที่เราเห็นในวันที่พ่ายคริสตัล พาเลซ นั่นก็คือ 10-15 นาทีสุดท้ายรวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บลิเวอร์พูลไม่ยอมแพ้ แม้แต่ตอนที่เซนเตอร์ฮาล์ฟบาดเจ็บก็ส่งกองหน้าลงเพิ่ม แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ และมันสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในสนาม ถึงแม้ 1 แต้มอาจจะเหมือนหายไป 2 แต้ม แต่ถ้ามองคู่แข่งในสัปดาห์นี้ที่แพ้กันอย่างแมนฯยูไนเต็ด และสเปอร์ส มันยังเป็น 1 แต้มที่มีค่าถ้าคิดถึงตอนช่วงจบฤดูกาล ขณะที่ความมั่นใจ และความเชื่อมั่นว่าทีมจะกลับมาจากสถานการณ์ที่ตามหลังทำได้ดีขึ้น การแพ้ในบ้าน กับการเสมอมันแตกต่างกันมากโดยความรู้สึก และหวังว่าคล็อปป์จะก้าวเล็กๆ ไปยังทิศทางที่ถูกต้อง
รายละเอียดแท็กติกเพิ่มเติมติดตามได้ในรายการคุยหลังเกมทุกวันเสาร์ 10.00 น.ทาง lovelfctv https://www.youtube.com/channel/UC7ecszoRDsE0Tneq7mxwKPg
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ผมยังมองว่าน่าจะให้โอกาสบอกดานมากกว่านี้ มิโยเล่ก็เก่งแต่ลูกตัดบอลกากมาก แม้แต่ตอนฟรอมดี ก็ยังเหวอบ่อยๆ เหนื่อยแน่ เพราะทีมที่เยือนแอนฟิลยังใงเขาก็เน้นลูกโด่งลูกตั้งเตะ
1แต้มในนัดนี้ อาจจะมีความหมายสุดๆๆในนัดที่38ก็เป็นไปได้
ถ้ามีฮูเปียอยู่นี่ ไม่ได้แดกลูกกลางอากาศง่ายๆหรอก สกัดก็ดีทำประตูก็ได้
เราไม่เคยมีกองหลังที่เก็บลูกโด่งได้หมดจดเหมือนคนนี้อีกเลย (อยากได้ฮูเปีย กับฮองโช กลับมายืนเซนเตอร์อีก)
มืลเนอร์แต่ละนัดเล่นไม่ดีเลยจริงๆ พลาดบ่อยออกบอลไม่ดี
แถวสอง ฟรีคิก เปิดเตะมุม ตั้งเเต่เจิดหายไปยังหาใครแทนไม่ด้เลย
บาโลครับ
ทีมเราตอนนี้ขาดคีย๊แมนตัวสำคัญ อย่างเจิดจริงๆครับ
อยากให้น้องๆๆเพื่อนๆๆพี่ๆๆใจเย็นๆๆคับบอลอย่างคล็อปเค้ารู้อยู่ว่าตอนนี้ศักภาพทีมเรามีแค่ไหนแต่เขาไม่พูดแค่นั้นเองรอปีใหม่เขาน่าจะซื้อสัก2-3คนเห็นบอร์ดอนุมัติเงินให้เขาตามข่าวต้องรอลุ้นกันคับส่วนตัวผมคิดว่าหงส์น่าจะจบที่ 4คับสู้ๆๆๆ
ไว้ใจคล็อปล้านเปอร์เซนต์ครับ แต่ประตูกับเซ็นเตอร์แบ็กควรหาใหม่มาเสริมด่วนๆ